บทที่ 4 แค่เริ่มต้น
ลลนาลงมาจากชั้นบน เมื่อเด็กรับใช้ขึ้นไปรายงานว่า รถของไร่แสงตะวันมาถึงแล้ว เก้าโมงตรงไม่ขาดไม่เกิน เมื่อข้อมือบางพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เธอรับรู้อีกอย่างว่าเผ่าเพชรเป็นคนตรงเวลา ร่างบางเดินลงบันไดมาเรื่อย ๆ ข้าวของเครื่องใช้ของเธอถูกเด็กรับใช้ ขนลงมาตั้งแต่เช้า และกำลังถูกลำเลียงขึ้นท้ายรถเอสยูวีสีดำที่จอดอยู่หน้าบ้าน
ตั้งแต่เมื่อวานลลนาไม่ได้ลงมาชั้นล่างอีกเลย เธอปฏิเสธมื้อเย็นและมื้อเช้า สำรับที่เด็กรับใช้ยกขึ้นไปให้ เธอก็ไม่แตะมัน ไม่ได้ประท้วงเพราะรู้ว่าทำไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะไม่มีใครสนใจเธอสักเท่าไร ร่างบางเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องรับแขกที่มีคุณประกรกับคุณลัดดากำลังนั่งเล่นละครอยู่ ด้านหน้าท่านเป็นไหล่กว้างของใครบางคนที่นั่งหันหลังให้เธอ ผู้ชายคนนี้ตัวใหญ่ มากขนาดนั่งแผ่นหลังยังสูงเลยพนักโซฟาขึ้นมา ลลนากวาดมองไปยังไหล่กว้างภายใต้เสื้อเชิ้ตลายตารางหมากรุกสีเข้ม ไล่ขึ้นไปตามลำคอแกร่ง ก่อนจะไปหยุดที่เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาว ประบ่า
“อ้าว... ยายปอลงมาพอดีเลย มานี่ลูก มาสวัสดีพี่เผ่าสิลูก”
คุณลัดดาเอ่ยเรียกเธอเสียงหวาน ยังไม่ทันที่เท้าบางจะขยับ ไปไหน คนที่นั่งหันหลังให้ก็หันมา ลลนาตาค้าง เมื่อสายตาปะทะกับแผลเป็นบริเวณซีกหน้าด้านซ้ายของเขาเต็มตา แผลเป็นปูดโปนเป็นริ้วกระจายอยู่ทั่วซีกหน้า
‘ไอ้หน้าผี’ ลลนานึกถึงคำที่มารดาใช้เรียกเขาเมื่อวาน ดวงตากลมโตยังจ้องค้างอยู่ที่ซีกหน้าด้านนั้น และดูเหมือนเจ้าของใบหน้าก็จะรู้ตัว เพราะริมฝีปากหยักบิดขึ้นเล็กน้อย เป็นการยิ้มทักทาย แต่ลลนาเรียกมันว่าแสยะเสียมากว่า
“ยายปอ... เสียมารยาทจริง ไหว้พี่เขาสิลูก” คุณลัดดาเอ่ยขัดจังหวะ เมื่อเห็นหนุ่มสาวจ้องกันตาไม่กะพริบ
“สวัสดีค่ะ”
มือบางยกขึ้นทำความเคารพตามมารยาท ลลนาเห็นแววไหววูบในดวงตาคู่ดุนั้นนิดหนึ่ง ก่อนมันจะเปลี่ยนให้กลับมานิ่งเฉยดังเดิม ดวงตาสีดำยังคงมองนิ่งมาที่เธอ
“คุณเผ่าคะ ยายปอค่ะ ลลนา คนที่...” คำพูดคุณลัดดาค้างไว้ แค่นั้น เมื่อเสียงแหบห้าวดังขัดขึ้น
“คนที่พวกคุณเอามาขัดตาทัพหรือครับ”
ร่างบางชาวูบเมื่อได้ยินคำพูดนี้ คุณประกรหน้าเสีย ผิดกับ คุณลัดดาที่หน้ากลับตึงขึ้น
“คือเรา...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะจะคนไหนก็ไม่สำคัญ หลัก ๆ เธอก็เป็นแค่แม่พันธุ์ให้ผม ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ผมจะได้กลับเลย”
คำพูดที่เขาสาดใส่ทำให้ลลนานึกฉุน ถึงแม้จะไม่พอใจกับการกระทำของพ่อแม่ แต่เมื่อท่านถูกคนแปลกหน้าดูถูก ลลนาก็ทนไม่ไหว
“ถ้าจุดประสงค์หลักที่ฉันต้องไปอยู่กับคุณ เพียงแค่เป็นแม่พันธุ์ งั้นเราขอยกเลิกสัญญาค่ะ ฉันคิดว่าคุณคงหาแม่พันธุ์ได้ดีว่าฉันอย่างแน่นอน” ลลนาเอ่ยขึ้น
“ปอ...” คุณประกรเอ่ยเรียกชื่อลูก เพราะรู้จักนิสัยลลนาดี
“อันที่จริงในสัญญาก็ไม่ใช่คุณตั้งแต่แรกนี่ ทำไมถึงอยากจะมาเป็นแทนน้องล่ะ หรือว่าหวังอะไรมากกว่านั้น”
“ฉันไม่ได้หวังหรือคิดอะไรทั้งนั้น ทางเราไม่ได้ขัดสนถึงขนาด ต้องขายตัวเองกินหรอกค่ะ ถ้าคุณไม่เต็มใจก็แค่ยกเลิก”
“ผมเสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง หวังว่าจะได้แม่ของลูกเป็นสินค้า มือหนึ่ง แต่กลับมาได้ของมือสอง พวกคุณไม่ต้องเสียเวลาย้อมแมวหรอก แค่จับเธอใส่ตะกร้าเขย่าน้ำมาให้ ผมก็โอเคแล้ว ขอตัวนะครับ เสียเวลามามากแล้ว ไป!” พูดจบเผ่าเพชรก็หันมาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบาง ก่อนจะออกแรงลาก
“คุณเผ่าเพชร ปล่อยลูกสาวผมนะ” คุณประกรตวาดลั่น เมื่อเห็นชายหนุ่มทำกริยาแบบนั้นกับลูกสาว
“ทำไมครับ คุณก็จงใจโยนเธอลงขุมนรก แล้วจะรออะไรล่ะ ก็ดูให้เห็นกับตาไปเลยสิ”
“ปล่อยนะ ฉันเจ็บ!” ลลนาพยายามบิดข้อมือออกจากฝ่ามือใหญ่ เมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่เขาจงใจกดลงมาบนข้อมือของเธอ
นอกจะไม่ปล่อยแล้ว เผ่าเพชรยังจงใจทำให้ลลนาเจ็บมากขึ้น ชายหนุ่มกระชากคนร่างบางปลิวติดมือออกมาด้านนอก คุณประกรและคุณลัดดาต่างก็ตกใจไม่น้อย ที่ชายหนุ่มกระทำกับลูกสาวของเขาโดยไม่เกรงใจเลยสักนิด คนงานในบ้านต่างก็มามุงดู เมื่อได้ยินเสียงดังโวยวายของเจ้าของบ้าน ลลนายังดิ้นหนี แต่เธอไม่ร้องให้พ่อแม่ช่วย สักคำ เพราะรู้ว่าร้องไปก็เท่านั้น ท่านไม่คิดจะช่วยเธออยู่แล้ว ถ้าสงสารลูกจริง ๆ ทำไมถึงยอมส่งเธอให้กับเขา
“คุณเผ่า อย่าทำน้องนะคะ นั่นแมงปอของคุณเผ่าไงคะ”
คุณลัดดาตะโกนบอก เผ่าเพชรยกยิ้มมุมปาก ในขณะที่หัวคิ้วลลนาขมวดมุ่น ‘แมงปอ’ อย่างนั้นหรือ ทำไมเธอถึงรู้สึกดีเวลาที่มีคนเรียกชื่อนี้
เผ่าเพชรหัวเราะในลำคอเบา ๆ ใจจริงอยากจะระเบิดเสียงออกมาให้ดังลั่น นี่คนบ้านนี้คงคิดว่าเขาเป็นบ้า หรือไม่ก็สติฟั่นเฟือน ถึงได้คิดว่าเขาจะจำอะไรไม่ได้ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เขาเสียโฉม แต่สมองของเขายังดีอยู่
“ผมต้องการแก้วใบที่มันสวยงาม แต่พวกคุณจงใจยื่นแก้ว ‘บิ่น’มาให้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องถนอม” พูดจบใบหน้าเครียดขึ้งก็เงยขึ้นมอง ไปยังชั้นบน ดวงตาแข็งกร้าวมองลอดบานหน้าต่างที่ตอนนี้เห็นเพียงผ้าม่านสั่นไหว
บนนั้นมีคนแอบดูอยู่... หึ! ไหนว่าลันลดาหายตัวไป แล้วข้างบนนั่นมันคืออะไร ดวงตาคมดุมองกลับไปยังคุณประกรที่ตอนนี้ยืน แข็งค้างทำอะไรไม่ถูก คุณลัดดาก็เช่นกัน
“จะไปก็รีบไป ฉันพร้อมแล้ว!”
ลลนาพูดขึ้นเมื่อจับความหมายในตาดุนั้นได้ เขาเห็นลันลดา และเธอคงจะไม่ยอมให้เขาเปลี่ยนเอาตัวน้องไป ผู้ชายคนนี้ดิบเถื่อน และเลวได้ใจ ก็เหมาะแล้วกับแก้วบิ่นอย่างเธอ เพราะไม่นานมันก็คงแตก ดีกว่าปล่อยให้แก้วเจียระไนใบสวย ต้องตกไปอยู่ในมือของคนที่ ไม่รู้คุณค่า ลลนาสูดลมหายใจเข้าปอด ก้มหน้ารับชะตากรรมตัวเอง
“ดี! พร้อมแล้วก็ดี”
“ยายปอ!” คุณลัดดาเรียกลูกสาว เมื่อเห็นเธอโดนลากเร็ว ๆ ไปที่รถ ถึงแม้จะเป็นคนตัดสินใจแบบนี้ แต่พอมาเจอเผ่าเพชรจริง ๆ นางก็อยากจะเปลี่ยนใจ
“ไม่ต้องห่วงปอหรอกค่ะ ปอดูแลตัวเองได้ ขอบคุณนะคะสำหรับทุกอย่างที่แม่เลือกให้ปอ”
“ปอ!”
“ถ้าปอไม่ตายเสียก่อน ปอจะกลับมาเยี่ยมนะคะ”
เธอน้ำตารื้นเมื่อต้องไปจริง ๆ เผ่าเพชรเป็นคนหยาบคาย สมแล้วที่คุณลัดดาว่าเขาเป็นคนบ้า
ซีกหน้าคมคายเครียดเขม็ง เมื่อคนตัวเล็กพูดจบ ดี... ให้คิดแบบนั้นก็ดี เธอจะได้กลัวเขา
ไม่มีการล่ำลา เมื่อเขาโยนคนตัวเล็กขึ้นรถ ก่อนจะตามขึ้นมานั่งประจำที่คนขับ แล้วกระชากรถออกไปด้วยความเร็วสูง ลลนากลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด
“กลัวเหรอ!” เผ่าเพชรถามเสียงเย็น
“ค่ะ” ลลนาตอบสั้น ๆ ตามความจริง
“กลัวแล้วมากับผมทำไม”
“คุณจะถามทำไม ในเมื่อคุณเป็นคนยืนยันเองว่าจะเอาคน!”
“จะเอาลันลดาโว้ย! ไม่ใช่คุณ”
“แล้วคุณลากฉันมาทำไม!”
“เห็นอยากมาจนตัวสั่น เลยไม่อยากขัดศรัทธา”
“เข้าใจเสียใหม่ด้วยนะคะคุณเผ่าเพชร ฉันไม่ได้อยากมากับคุณเลย”
“แล้วกระเป๋าเสื้อผ้าห้าใบนั่นมันคืออะไร”
“ค่ะ... แล้วแต่คุณจะคิด”
ลลนาตัดบท ก่อนจะหันมาสนใจกับมือถือในมือต่อ เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขา จะเอาเธอไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนก็เชิญ
“อยากจนตัวสั่นละสิ ยายแมงปอปีกหัก!”
สิ้นเสียงดูถูก ดวงตากลมโตหันมามองซีกหน้าที่มีรอยแผลเป็นอย่างนึกสงสัย ‘แมงปอ’ อย่างนั้นหรือ วันนี้เธอได้ยินคำเรียกนี้สองครั้งแล้ว ครั้งหนึ่งมาจากปากคนเป็นแม่ ครั้งที่สองมาจากปากเน่า ๆ ของคนหน้าผีนี่
เผ่าเพชรขับรถไปด้วยความเร็วสูง ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไรอีก ลลนาเอาหูฟังใส่หู กันตัวเองออกมาอยู่ในโลกส่วนตัว เพราะอีกไม่นานเธอจะต้องเข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่กับหน้าที่ใหม่ เผ่าเพชรก็ไม่สนใจเธออีก หลายครั้งที่ดวงตาคมดุหันมามองซีกหน้าของคนที่นั่งหลับข้าง ๆ เธอหลับจริงไหมเขาไม่รู้ แต่ก็ดีกว่าให้เธอมานั่งแหกปาก เพราะเขา ไม่อยากคุยกับเธอ
